วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559


ประเพณีลอยกระทง 2016


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กระทงสวยงาม   

ขอเชิญชวนคนไทยให้มารวมอนุรักษ์ประเพณีลอยกระทง
ซึ่งเป็นประเพณีดั่งเดิมมาแต่ก่อน เราควรอนุรักษ์วัฒนธรรมนี้ไว้ พวกเราจึงขอเชิญชวนคนไทยและคนต่างชาติให้มาร่วมลอยกระทง
เพื่อขอขมาพระแม่คงคา ณ วันที่ 14 พฤษภาคม ของทุกๆปี 

วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559

                                                      กีฬาแบดมินตัน 
  
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กติกา แบดมินตัน


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เครื่องแต่งกายแบดมินตันผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สนาม แบดมินตัน
   
  ที่มาของแบดมินตัน
 แบดมินตัน (Badminton) เป็นกีฬาที่ได้รับการวิจารณ์เป็นอย่างมากเพราะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดถึงที่ มาของกีฬาประเภทนี้ คงมีแต่หลักฐานบางอย่างที่ทำให้ทราบว่ากีฬาแบดมินตันมีเล่นกันในยุโรป โดยเฉพาะในประเทศอังกฤษตอนปลายศตวรรษที่ 17 และจากภาพสน้ำมันหลายภาพได้ยืนยันว่ากีฬาแบดมินตันเล่นกันอย่างแพร่หลายใน พระราชวงศ์ของราชสำนักต่างๆ ในทวีปยุโรป แม้ว่าจะเรียกกันภายใต้ชื่ออื่นก็ตาม

     ประวัติของกีฬาแบดมินตันบันทึกได้แน่นอนในปี พ.ศ. 2413 ปรากฏว่ามีการเล่นกีฬาลูกขนไก่เกิดขึ้นที่เมืองปูนา (Poona) ในประเทศอินเดีย เป็นเมืองเล็กๆ ห่างจากเมืองบอมเปย์ประมาณ 50 ไมล์โดยได้รวมการเล่นสองอย่างเข้าด้วยกันคือ การเล่นปูนาของประเทศอินเดียและการเล่นไม้ตีกับลูกขนไก่ (Battledore Shuttle Cock) ของยุโรป

     ในระยะแรกๆการเล่นจะเล่นกันเพียงแต่ในหมู่นายทหารของกองทัพและสมาชิกชนชั้นสูงของอินเดียจนกระทั่งมีนายทหารอังกฤษที่ไปประจำการอยู่ที่เมืองปูนานำการเล่นตีลูกขนไก่นี้กลับไปอังกฤษและเล่นกันอย่างกว้างขวาง ณ คฤหาสน์แบดมินตัน (Badmin
ton House) ของดยุคแห่งบิวฟอร์ดที่กล๊อสเตอร์เชอร์ ในปี พ.ศ. 2416 เกมกีฬาตีลูกขนไก่เลยถูกเรียกว่าแบดมินตัน ตามชื่อคฤหาสน์ของดยุคแห่งบิวฟอร์ดตั้งแต่นั้นมา

     กีฬาแบดมินตันเริ่มแพร่หลายในประเทศแถบภาคพื้นยุโรปเพราะเป็นเกมที่คล้ายเทนนิส แต่สามารถเล่นได้ภายในตัวตึกโดยไม่ต้องกังวลต่อลมหรือหิมะในฤดูหนาว ชาวยุโรปที่อพยพไปสู่ทวีปอเมริกาได้นำกีฬาแบดมินตันไปเผยแพร่ รวมทั้งประเทศต่างๆในทวีปเอเชียและออสเตรเลียที่อยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ต่างนำเกมแบดมินตันไปเล่นยังประเทศของตนอย่างแพร่หลายเกมกีฬาแบดมินตันจึงกระจายไปสู่ส่วนต่างๆ ของโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วย


  กติกาเบื้องต้น

   1. การออกนอกเส้น มีการกำหนดเส้นออกแต่งต่างกันในกรณีเล่นเดี่ยวและเล่นคู่
   2. การเสิร์ฟลูก ตามกติกา ที่ถูกต้อง คือ
         1. หัวไม้ขณะสัมผัสลูกต้องต่ำกว่าข้อมืออย่างเห็นได้ชัด
         2. หัวไม้ขณะสัมผัสลูกต้องต่ำกว่าเอวอย่างเห็นได้ชัด
         3. ผู้เล่นต้องไม่ถ่วงเวลา หรือเสริฟช้า หรือเสริฟ 2 จังหวะ การเสริฟ ต้องเสริฟไปด้วยจังหวะเดียว
         4. ขณะเสิร์ฟ ส่วนใดส่วนหนึ่งของเท้าทั้ง 2 ข้างต้องสัมผัสพื้นตลอดเวลา
         5. การเสิร์ฟลูกที่ถูกต้อง ต้องให้แร็กเก็ตสัมผัสกับหัวลูกก่อน หากโดนขนก่อนถือว่าผิดกติกา
   3. ขณะตีลูกโต้กัน ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายหรือไม้แบดไปสัมผัสกับเน็ท
   4. ห้ามตีลูกที่ฝั่งตรงข้ามโต้กลับมาในขณะที่ลูกยังไม่ข้ามเน็ทมายังแดนเรา(Over net)

สหพันธ์ แบดมินตันนานาชาติ ( IBF) ได้กำหนดให้ ทดลองใช้ระบบการนับคะแนนการแข่งขันกีฬาแบดมินตันใหม่ ในระบบ 3 x 21 คะแนน ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2549 เป็นต้นไป

รายละเอียดของกติกาการนับคะแนนมีดังนี้
1. แมทช์หนึ่งต้องชนะให้ได้มากที่สุดใน 3 เกม
2. ทุกประเภทของการแข่งขัน  ฝ่ายที่ได้ 21 คะแนนก่อนเป็นฝ่ายชนะในเกมนั้น ยกเว้นเมื่อได้ 20 คะแนนเท่ากันต้องนับต่อให้มีคะแนนห่างกัน 2 คะแนน ฝ่ายใดได้คะแนนนำ 2 คะแนนก่อนเป็นผู้ชนะ  แต่ไม่เกิน 30 คะแนน หมายความว่าหากการเล่นดำเนินมาจนถึง 29 คะแนนเท่ากัน  ฝ่ายใดได้ 30 คะแนนก่อน เป็นผู้ชนะ
3. ฝ่ายชนะเป็นฝ่ายส่งลูกต่อในเกมต่อไป
4. ฝ่ายชนะการเสี่ยงสิทธิ์เป็นฝ่ายส่งลูกได้ก่อน  หากฝ่ายตรงข้ามทำลูก "เสีย" หรือลูกไม่ได้อยู่ในการเล่น  ผู้เลือกส่งลูกก่อนจะได้คะแนนนำ 1-0 และได้ส่งลูกต่อ  แต่หากผู้ส่งลูกทำลูก "เสีย" หรือลูกไม่อยู่ในการเล่น  ฝ่ายตรงข้ามจะได้คะแนนตามมาทันทีเป็น 1-1 และฝ่ายตรงข้ามจะได้สิทธิ์ส่งลูกแทน  ดำเนินเช่นนี้ต่อไปจนจบเกม
5. ประเภทคู่ให้ส่งลูกฝ่ายละ 1 ครั้ง ตามคะแนนที่ได้  ขณะที่เปลี่ยนฝ่ายส่งลูก หากคะแนนเป็นจำนวนคี่ ผู้อยู่คอร์ดด้านซ้ายเป็นผู้ส่งลูก  หากคะแนนเป็นจำนวนคู่ผู้อยู่คอร์ดด้านขวาเป็นฝ่ายส่งลูก

เครื่องแต่งกาย
เครื่องแต่งกาย  การแต่งกายของนักกีฬาแบดมินตันถือเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้เล่นแบดมินตันได้ดีซึ่งไม่จำเป็นต้องสวยงามฟุ่มเฟือยมากเกินไป ที่สำคัญต้องสุภาพและเหมาะสมกับร่างกายของผู้เล่น  ตลอดจนถูกต้องตามกติกาและระเบียบการแข่งขัน  พอจะแยกเครื่องแต่งกายของนักกีฬาแบดมินตันได้ ดังนี้
เสื้อกีฬา  ควรตัดมาจากผ้าที่สามารถยืดหยุ่นได้ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป  ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างอิสระคล่องแคล่ว ไม่ฝืดขณะเคลื่อนไหว  ผ้าที่ใช้ควรเป็นผ้าฝ้ายชนิดบางมีน้ำหนักเบา  และซับเหงื่อได้ดีกว่า  ผ้าผสมไนลอน  ควรมีสีขาวเป็นพื้น  ปัจจุบันนิยมมีลวดลายแต่ไม่ควรมีมากเกินไป เพราะจะดูไม่สุภาพ

กางเกงกีฬา  สำหรับสุภาพสตรีอาจใช้กระโปรงสั้นแทนก็ได้ คุณสมบัติของกางเกงกีฬาใช้เช่นเดียวกับเสื้อกีฬา  กล่าวคือ ควรตัดเย็บจากผ้าที่สามารถยืดหยุ่นได้ดี เพื่อสะดวกแก่การ
เคลื่อนไหวและควรมีสีขาวเป็นพื้น ส่วนมากกางเกงไม่เป็นที่นิยมมีลวดลาย เพราะดูไม่สุภาพมากกว่าจะสวยงาม
   ถุงเท้ากีฬา  ควรใช้ถุงเท้าที่มีความหนาผลิตสำหรับนักกีฬาโดยเฉพาะเพื่อป้องกันการเสียดสีกับรองเท้า ซึ่งจะสังเกตเห็นได้โดยดูจากส่วนของถุงเท้าตั้งแต่ข้อเท้าลงไปจะมีความหนากว่าบริเวณอื่น

รองเท้ากีฬา ต้องเป็นรองเท้าผ้าใบสีขาวที่พอดีกับเท้า  แต่ต้องให้ใหญ่กว่าเท้าเล็กน้อยเพื่อการสวมถุงเท้าให้พอดี รองเท้าที่คับจะทำให้เกิดการบาดเจ็บในเวลาเล่น  พื้นรองเท้าที่ใช้ควรทำด้วยยางดิบ มีลายเป็นก้างปลาจะเกาะสนามได้ดีไม่ลื่น  เพราะรองเท้าที่ลื่นจะทำให้การเล่นนั้นผิดจังหวะการวิ่ง  การกลับตัว การกระโดด การหยุดทำได้ยากลำบาก และเป็นผลให้การเล่นแบดมินตันไม่ได้ดีเท่าที่ควร  ตลอดจนอาจเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้  สิ่งสำคัญก็คือการเลือกใช้รองเท้าที่ผลิตขึ้นสำหรับนักกีฬาแบดมินตันโดยเฉพาะ

  รัดข้อมือ  ที่ข้อมือข้างที่จับไม้แร็กเกตอาจใช้ที่รัดข้อมือสวมใส่ไว้ เพื่อป้องกันเหงื่อจากแขนที่ไหลลงมามือขณะเล่นเพราะถ้ามือเปียกมาก ๆ จะทำให้การจับไม้แร็กเกตไม่ถนัด การควบคุมการตีลูกได้ไม่ดีนัก

วิธีการเล่น
   ตีตรงกลางลูกขนไก่เสมอ. คุณควรตีกึ่งกลางส่วนมนที่เป็นยางของลูกขนไก่ หรือเรียกว่า "สวีตสป็อต" ของลูกขนไก่ให้ได้ทุกๆ ครั้ง คุณสามารถฝึกฝนเทคนิคนี้ โดยมองไปที่กึ่งกลางของลูกขนไก่ เมื่อคุณตีลูกขนไก่เหนือศีรษะ

  ตีตรงกลางลูกขนไก่เสมอ. คุณควรตีกึ่งกลางส่วนมนที่เป็นยางของลูกขนไก่ หรือเรียกว่า "สวีตสป็อต" ของลูกขนไก่ให้ได้ทุกๆ ครั้ง คุณสามารถฝึกฝนเทคนิคนี้ โดยมองไปที่กึ่งกลางของลูกขนไก่ เมื่อคุณตีลูกขนไก่เหนือศีรษะ

กลับมาที่จุดกึ่งกลางของคอร์ทอยู่เสมอ. อย่าเสียตำแหน่งหลังจากคุณตีโต้ จงกลับไปยังจุดกึ่งกลางด้านหลังของคอร์ท วิธีนี้จะช่วยให้คู่แข่งวางลูกโยกคุณให้เคลื่อนตัวไปมาได้ยากขึ้น และไม่อาจตีลูกไปในจุดที่คุณไม่สามารถเอื้อมถึง การยืนตำแหน่งกลางคอร์ท ในขณะที่ขยับเท้าไปด้วย และเตรียมพร้อมสำหรับการตีช็อตต่อไป จะทำให้คุณอยู่ใน "ท่วงท่าที่พร้อมเสมอ" 


ตีลูกขนไก่ให้ถึงเส้นหลัง. การตีลูกขนไก่ไปเส้นหลังต้องใช้ทั้งความแม่นยำและพละกำลัง ทำให้คู่แข่งของคุณต้องสลับถอยหลังไปมา และต้องออกแรงค่อนข้างมากในการตีลูกขนไก่โต้กลับมา หากคุณไม่แน่ใจจะตีลูกขนไก่ไปตรงไหนในการตีช็อตต่อไป และเส้นหลังเปิดโล่งอยู่ ให้คุณเล็งไปที่จุดนั้น ในตอนแรกให้เล็งไปที่ตำแหน่งก่อนถึงเส้นหลัง เพื่อคุณจะได้ไม่เสียฟาวล์หากลูกขนไก่ออกเส้นหลัง

ฝึกฝนการเคลื่อนไหวเท้า. แบดมินตันคล้ายกับกีฬาสควอชที่ความสำเร็จจะอยู่ตรงการเคลื่อนไหวเท้า หากคุณยืนขาตายในคอร์ท คุณจะไม่สามารถตีโต้กลับคู่แข่งได้ แทนที่จะยืนขาตายอยู่กับที่ ให้คุณเคลื่อนไหวเท้าขึ้นลงในขณะที่คุณคอยจะตีโต้ และเคลื่อนไหวเท้าหน้าหลัง และด้านข้างไปมาเพียงเล็กน้อย เพื่อหาตำแหน่งในการตีโต้ลูกขนไก่ ห้ามขี้เกียจ และคอยแต่เอื้อมมือของคุณออกมากเกินไปในการตีโต้คู่แข่ง แต่ให้เคลื่อนไหวเท้าเพียงเล็กน้อยจนกระทั่งลูกขนไก่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการตีโต้คู่แข่ง

ฝึกฝนการเสิร์ฟลูกหยอด. ไม่ว่าคุณจะเล่นประเภทเดี่ยว หรือประเภทคู่ การเสิร์ฟลูกหยอดจะทำให้คู่แข่งของคุณไม่ทันตั้งตัว และอาจทำให้ไม่สามารถวิ่งไปทันโต้ลูกเสิร์ฟกลับมา ในการเสิร์ฟลูกขนไก่ คุณไม่ควรแค่ตีลูกขนไก่ในน้ำหนักที่เบามากๆ ไม่เช่นนั้นลูกขนไก่อาจตกลงในฝั่งของคุณ ให้คุณตีที่จุดสัมผัสที่สูงขึ้น และหย่อนลูกขนไก่ให้ใกล้กับไม้แบดมินตัน แทนที่จะเป็นด้านหน้าของไม้แบดมินตัน [2]

ฝึกฝนการเสิร์ฟลูกยาวในการเล่นประเภทเดี่ยว. การเสิร์ฟลูกยาวไปสุดเส้นหลัง จะทำให้คู่แข่งไม่ทันตั้งตัว ซึ่งคู่แข่งอาจจะกำลังยืนอยู่ล้ำหน้าลูกขนไก่ และอาจตีพลาด หรือคู่แข่งอาจไม่มีแรงมากพอในการตีโต้กลับ ในการเสิร์ฟลูกยาวนั้น ปล่อยให้ลูกขนไก่หล่นลงมาหน้าคุณ ในขณะที่คุณเงื้อไม้ของคุณไปด้านหลังเกือบเป็นตำแหน่งเดียวกับระดับของหัวไหล่ ซึ่งจะทำให้คุณสร้างแรงผลักดันได้มากขึ้น ก่อนที่คุณจะวาดไม้แบดมินตันไปด้านหน้าเพื่อตีลูกขนไก่




























วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

               เรียง....ความจากใจฉัน 
คำว่า แม่ มีความหมายลึกซึ้ง อาจเป็นคำสั้นๆ
แต่คำว่าแม่นั้นมีความหมายมากมายมหาศาล ที่ไม่มีอะไรมาเปรี่ยบเทียบได้ แม่คือผู้ยิ่งใหญ่ผู้ที่มีพระคุณต่อลูกทุกคน แม่สามารถให้ทุกอย่างกับลูกได้แม้กระทั่งลมหายใจสุดท้าย แม่ก็ให้ลูกได้
                 12 สิงหาคม ของทุกเดือนเป็นวันแม่แห่งชาติแม่ผู้ให้กำเนิดคอยอุ้มท้องเรามา 9 เดือน ด้วยความเจ็บปวดทรมาน แม่คอยปกป้องตอนเราอยู่ในท้อง พอเราเกิดมาแม่ก็คอยปกป้องเราคอยดูแลเราไม่ให้ใครมารังแกเราได้ให้เรากินอาหารที่มีประโยชน์ป้อนข้าวป้อนน้ำเราปลุกเราไปโรงเรียนทุกเช้าคอยส่งเสียหาเงินให้เราเรียนให้เรามีอานาคตที่ดีคอยอบรมสั่งสอนดุด่าว่าตีให้เราเป็นคนดีไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดให้เป็นคนดีของสังคมคอยให้ความอบอุ่น ความห่วงใย คอยดูแลเอาใจใส่เราทุกอย่างตอนเราไม่สบายก็คอยดูแลเราไม่ห่างเราไปไหนดิ้นรนทุกอย่างเพื่อให้ลูกหายจากโรคภัยไข้เจ็บ
                ดังนั้น...คำว่าแม่...มีความหมายมากมาย และเป็นผู้มีพระคุณกับลูกทุกคนมากไม่อาจทดแทนบุญคุณนี้หมดถึงหนูจะไม่ใช่ลูกที่ดีเด่นชอบทำผิดในหลายๆเรื่องไม่เคยทำให้แม่ภูมิใจสักครั้งแต่ลูกคนนี้ขอสัญญาว่าลูกคนนี้จะเรียนให้จบไม่ยุ่งกับสารเสพติดจะทำให้แม่ภูมิใจจะนำใบปริญญามาให้แม่ดู " ลูกที่แย่ รักแม่ที่สุด"
            


           

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559

วันแม่แห่งชาติ 2559

ตรงกับวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2559     
               วันแม่แห่งชาติ ที่คนไทยทั่วไปนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า วันแม่ ทุกคนรับทราบและซาบซึ้งกันดี เนื่องจากวันสำคัญนี้ตรงกับ วันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คือวันที่๑๒ สิงหาคม อันเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ และถือว่าเป็นวันแม่แห่งชาติด้วย

ความหมายของดอกมะลิ

          ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์และเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเย็นระรื่นใจ จึงยกย่องให้ดอกมะลิเป็นสัญลักษณ์ เป็นดอกไม้วันแม่แห่งชาติ ซึ่งทางราชการให้ถือว่าวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คือ วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ เริ่มในปี พ.ศ.2519 เป็นต้นมา อ่านเพิ่มเติม

ประวัติวันแม่แห่งชาติ

          แต่เดิมนั้น วันแม่แห่งชาติได้กำหนดเอาวันที่ ๑๕ เมษายน ของทุกๆ ปี ทั้งนี้เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีประกาศรับรองเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๙๓ ซึ่งได้พิจารณาเห็นว่าการจัดงานวันแม่ของสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สภาวัฒนธรรมแห่งชาติผู้รับมอบหมายให้จัดงานวันแม่ มาตั้งแต่วันที่ ๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ เป็นครั้งแรก เป็นต้นมานั้นได้รับความสำเร็จด้วยดี ด้วยประชาชนให้การสนับสนุนจนสามารถขยายขอบข่ายของงานให้กว้างออกไปได้ การจัดงานไม่เพียงแต่จัดพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่ยังจัดให้มีการประกวดแม่ของชาติ ประกวดคำขวัญวันแม่ ทั้งนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ และเพื่อเพิ่มความสำคัญของงานวันแม่ให้ยิ่งๆ ขึ้น ด้วยเหตุนี้งานวันแม่จึงเป็นวันแม่ประจำปีของชาติตามประกาศของรัฐบาล ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม (สมัยนั้น) แต่ทั่วไปเรียกกันว่า วันแม่ของชาติ
 
          ต่อมาถึง พุทธศักราช ๒๕๑๙ ทางราชกาารได้เปลี่ยนใหม่ให้ถือว่าวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คือ วันที่ ๑๒ สิงหาคม เป็น วันแม่แห่งชาติ เริ่มในปีพุทธศักราช ๒๕๑๙ เป็นต้นมา จากหนังสือของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ชื่อแม่หลวงของปวงชน พิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๒๐ มีข้อความตอนหนึ่งเทิดพระเกียรติไว้ว่า
 
          "แม่ที่ดีย่อมรู้จักส่งเสริมธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ เพราะแม่ทราบดีว่าถ้าขาดสิ่งเหล่านี้แล้วความเป็นไทยที่แท้จริงจะมิปรากฏอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอันเป็นที่รักยิ่งของเรา
 
          แม่ที่ดีย่อมประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดี ตามระบอบของการปกครองแบบประชาธิปไตย ซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุข โดยรักเคารพและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์เหนือสิ่งอื่นใด
 
          หญิงไทยทุกคน ย่อมจะมีคุณลักษณะต่างๆ ของแม่ที่ดีดังกล่าวข้างต้นอยู่แล้ว จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการศึกษาและการฝึกอบรม แต่จะหาหญิงใดที่มีคุณลักษณะครบถ้วนทุกประการเสมอเหมือนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นั้นไม่ง่ายนัก ด้วยเหตุนี้เราจึงขอเทิดทูนพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ ว่าทรงเป็นแม่หลวงของปวงชน ผู้ทรงเป็นศรีสง่าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของบ้านเมืองและของประชาชนชาวไทยทั้งมวล"
 
          ดังกล่าวนี้เป็นเรื่องของวันแม่ของชาติตามเหตุผลของทางราชการ
 
          ส่วนที่เกี่ยวกับวันแม่ของไทยตามความรู้สึกนึกคิดทั่วไปของคนไทยผู้เป็นแม่ คำว่า แม่ นี้เป็นคำที่ซาบซึ้ง ไม่มีการกำหนดวัน เวลา แต่มีความหมายลึกซึ้งกินใจของผู้เป็นแม่และลูกมานานแล้ว ดังสำนวนไทยประโยคหนึ่งว่า "แม่ใครมาน้ำตาใครไหล" ซึ่งพระวรเวทย์พิสิฐได้อธิบายไว้ในหนังสือวรรณกรรมเรื่อง "แม่" ว่า
 
          "เด็กไทยตามหมู่บ้านในสมัยที่ข้าพเจ้าเป็นเด็กมักเล่นกันเป็นหมู่ๆ เด็กคนไหนแม่อยู่บ้าน เวลาเขาเล่นอยู่ในหมู่เพื่อนหน้าตาก็ยิ้มแย้มแจ่มใส เด็กคนไหนที่แม่ไม่อยู่บ้าน ต่างว่าไปทำมาหากินไกลๆ หรือไปธุระที่ไหนนานๆ ก็มีหน้าตาเหงาหงอย ถึงจะเล่นสนุกสนานไปกับเพื่อนในเวลานั้นก็พลอยสนุกไปแกนๆ จนเด็กเพื่อนๆ กันรู้กิริยาอาการ เพราะฉะนั้น พอเด็กๆ เพื่อนๆ แลเห็นแม่เดินกลับมาแต่ไกลก็พากันร้องขึ้นว่า แม่ใครมาน้ำตาใครไหล แล้วเด็กคนนั้นผละจากเพื่อเล่นวิ่งไปหาแม่ กอดแม่ น้ำตาไหลพรากๆ ด้วยความปลื้มปีติ แล้วจึงหัวเราะออกลักษณะการที่เด็กแสดงออกมาจากน้ำใจอันแท้จริงอย่างนั้นย่อมเกิดจากความสนิทสนม ชิดเชื้อมีเยื่อใยต่อกัน แม่ไปไหนจากบ้านก็คิดถึงลูกและลูกก็เปล่าเปลี่ยวใจเมื่อแม่ไม่อยู่บ้าน นี่คือธรรมชาติ ไม่มีใครสร้างสรรค์บันดาล มันเกิดขึ้นเอง"

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การงานอาชีพและเทคโนโลยี

รายชื่อ
ด.ญ.วรารภรณ์ ทับทัง ชั้น ม.2/2 เลขที่ 26
ด.ญ. ณัฐกานต์ กัณหรัตน์ ชั้น ม.2/2 เลขที่ 27 
ด.ญ. ศุภิสรา สนุกแสน ชั้น ม.2/2 เลขที่ 31
ด.ญ. สุริกา บุญส่ง ชั้น ม.2/2 เลขที่ 32



   คอมพิวเตอร์ (computer) เข้ามามีบทบาทที่สำคัญยิ่งต่อสังคมของมนุษย์เราในปัจจุบัน แทบทุกวงการ ล้วนนำคอมพิวเตอร์เข้า ไปเกี่ยวข้องกับการใช้งาน จนกล่าวได้ว่า คอมพิวเตอร์เป็นปัจจัย ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อ การดำเนินชีวิตและ การทำงานใน ชีวิตประจำวัน ฉะนั้น การเรียนรู้เพื่อทำ ความรู้จัก กับคอมพิวเตอร์จึงถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะ ทราบว่าคอมพิวเตอร์คืออะไร ทำงานอย่างไร และมีความสำคัญต่อมนุษย์อย่างไร 

ความหมายของคอมพิวเตอร์

          คอมพิวเตอร์มาจากภาษาละตินว่า Computare ซึ่งหมายถึง การนับ หรือ การคำนวณ ดังนั้นถ้ากล่าวอย่างกว้าง ๆ เครื่องคำนวณที่มีส่วนประกอบเป็นเครื่องกลไกหรือเครื่องไฟฟ้า ต่างก็จัดเป็นคอมพิวเตอร์ได้ทั้งสิ้น ลูกคิดที่เคยใช้กันในร้านค้า ไม้บรรทัด คำนวณ (slide rule) ซึ่งถือเป็นเครื่องมือประจำตัววิศวกรในยุคยี่สิบปีก่อน หรือเครื่องคิดเลข ล้วนเป็นคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด
          ในปัจจุบันความหมายของคอมพิวเตอร์จะระบุเฉพาะเจาะจง หมายถึงเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำงานคำนวณผลและเปรียบเทียบค่าตามชุดคำสั่งด้วยความเร็วสูงอย่างต่อเนื่องและอัตโนมัติ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้คำจำกัดความของคอมพิวเตอร์ไว้ค่อนข้างกะทัดรัดว่าเครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เสมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์
            คอมพิวเตอร์จึงเป็นเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทำงานแทนมนุษย์ ในด้านการคิด คำนวณและสามารถจำข้อมูล ทั้งตัวเลข และ ตัวอักษรได้เพื่อการเรียกใช้งานในครั้งต่อไป นอกจากนียังสามารถจัดการกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูง โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์ยังมีความสามารถในด้านต่างๆ อีกมาก อาทิเช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่องและสามารถประมวลผลจากข้อมูลต่างๆ ได้